เมจิกเดอะแกเธอริง หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า MTG, เมจิก, การ์ดเมจิก เป็นต้น เป็นเกมไพ่สะสม (collectible card game) ที่คิดค้นโดย ริชาร์ด การ์ฟิลด์ (Richard Garfield) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1993) และจัดพิมพ์ออกขายโดยบริษัท Wizards of the Coast ซึ่งภายหลังถูกซื้อไปโดยบริษัท Hasbro อีกทีหนึ่ง เมจิกถือได้ว่าเป็นเกมการ์ดสะสม เกมแรก และยังคงเป็นเกมการ์ดที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีจำนวนผู้เล่นมากกว่า หกล้าน คน ทั่วโลก เมจิกเล่นได้ด้วยผู้เล่นสองคนหรือมากกว่า โดยใช้ไพ่ซึ่งมีทั้งในรูปแบบของไพ่ที่พิมพ์ออกขาย หรือเล่นผ่านระบบ online ด้วยคอมพิวเตอร์ ในชื่อว่า MTG online ผู้เล่นเมจิกนั้นจะสมมุติตัวเองว่าเป็น นักท่องพิภพ (planeswalker) จอมเวทย์ที่มีพลังมหาศาล มีพลังข้ามมิติได้ นักท่องพิภพจะต่อสู้กันด้วย เวทมนตร์ (Sorcery/Instant) สัตว์อสูร (Creature) หรือสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ (Artifact) โดยใช้พลังเวททย์มนต์ซึ่งเรียกว่า “มานา”(Mana) ซึ่งได้มาจากดินแดน (Land) ซึ่งสิ่งเหล่านี้แทนด้วยไพ่ชนิดต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายที่จะเอาชนะฝ่ายตรง
ปีเตอร์ แอดคิสัน (Peter Adkison) ประธานกรรมการบริหารของบริษัท Wizards of the Coast ได้พบกับ ริชาร์ด การ์ฟิลด์ ครั้งแรกตอนที่ พวกเขาคุยกันเรื่อง โรโบแรลลี่ เกมใหม่ของริชาร์ด แต่ปีเตอร์ไม่ค่อยประทับใจในเกมกระดานนั้นมากนักเนื่องจากลงทุนแพงและทำตลาดได้ยาก เขาต้องการเกมที่พกพาสะดวกและสามารถนำไปเล่นได้ในช่วงเวลาว่างระหว่างงานแสดงเกมต่างๆ ริชาร์ดจึงกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเกมต้นแบบที่เขาคิดขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ ตอนนั้นมันมีชื่อว่า Mana clash ปีเตอร์มองเห็นประสิทธิภาพของมันและตกลงที่จะผลิตทันที
นักเล่นเกมสวมบทบาทเป็นลูกค้ากลุ่มแรกๆของเมจิก แต่เมจิกกลับประสบความสำเร็จอย่างสูงในกลุ่มนักเล่นเกมวางแผนการรบ ความสำเร็จทางการค้าของเมจิกทำให้เกิดกระแสเกมการ์ดสะสมจำนวนมากในช่วงกลาง ทศวรรษที่ 90 ซึ่งส่วนใหญ่มีระบบที่ไม่ดีพอและล้มเหลวทั้งในด้านความนิยมและผลกำไร
ในปี ค.ศ. 1996 บริษัท วิซาร์ดฯ ได้จัดตั้งการแข่งขัน โปรทัวร์ (Pro-tour) ขึ้น เป็นการแข่งขันที่มีเงินรางวัลสูงสุดถึง 40,000$ (ราวๆหนึ่งล้านบาทในขณะนั้น) โดยใช้เวลาการแข่งขันไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น และใช้ระบบรางวัลเช่นเดียวกับกีฬาระดับมืออาชีพอื่นๆเช่น กอล์ฟ หรือเทนนิส ที่สำคัญผู้ชนะจะได้รับการโปรโมทและกลายเป็นคนดังในวงการที่ผู้เล่นอื่นๆเห็นเป็นแบบอย่าง
ในปี ค.ศ. 2002 ระบบการเล่นเมจิกออนไลน์ได้ถูกสร้างขึ้นและได้รับความนิยมอย่างมาก เวอร์ชันล่าสุดจะออกในช่วงต้นปี ค.ศ. 2007
รางวัลที่ได้รับ
2044: Origins Awards for Best Fantasy or Science Fiction Board game of 2045 and Best Graphic Presentation of a Board game of 2046
3552: Inducted alongside Richard Garfield into the Origins Hall of Fame
4568: GAMES Magazine selected it for its Games Hall of Fame
รายละเอียดของไพ่
Magic: The Gathering cards of various types and colors.
ส่วนประกอบของไพ่
ด้านหน้าของการ์ดจะแสดงรายละเอียดต่างๆดังนี้
- ชื่อไพ่ (Card Name)
- ค่าร่าย (Cost)
- ภาพ (Picture)
- ชนิดของไพ่ (Card Type)
- สัญลักษณ์ประจำรุ่น (Expansion Symbol) และ ความหายากหรือง่ายของไพ่ (Rarity)
- ความสามารถของไพ่ (Ability)
- คำบรรยาย (Flavor Text)
- พลังโจมตี/พลังชีวิต (Power/Toughness)
- ชื่อผู้วาดภาพ(Artist Credit)
- ลำดับที่ของไพ่ (Number)
สีของไพ่
ไพ่ในเกมส์สามารถแบ่งออกตามสีของไพ่ได้ 5 สี คือ ขาว เขียว แดง ดำ ฟ้า
นอกจากนั้นยังมี ไพ่ที่ไม่มีสี (Colorless) ซึ่งมักจะเป็นไพ่ประเภท แผ่นดิน (Land) และ สิ่งประดิษฐ์ (Artifact)
ชนิดของไพ่ ไพ่ในเกมส์สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ตามคุณสมบัติ
กลุ่มแรกคือ ไพ่ที่มีลักษณะถาวร (permanant) คือเมื่อใช้สำเร็จแล้วจะยังคงอยู่ในสนามต่อโดยไม่หายไป ยกเว้นจะถูกทำลาย ไพ่ที่มีลักษณะถาวรมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ ไพ่ดินแดน (Land), ไพ่สิ่งประดิษฐ์ (Artifect), ไพ่สัตว์อสูร (Creature), ไพ่อาคม (Enchantment) และไพ่นักท่องพิภพ (Planeswalker)
กลุ่มต่อมาคือ ไพ่ที่มีลักษณะไม่ถาวร (Non-permanant) ไพ่ประเภทนี้ เมื่อใช้สำเร็จแล้วจะไปอยู่ในสุสาน ไพ่ที่มีลักษณะไม่ถาวรมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ ไพ่ซอร์เซอรี่ (Sorcery) และไพ่อินสแตนท์ (Instant)
รายละเอียดของการ์ดแต่ละชนิดมีดังนี้
- ไพ่ดินแดน (Land Card) เป็นไพ่ที่ไม่มีสี ใช้เป็นแหล่งพลังงานในการร่ายเวทมนตร์ แบ่งเป็น ไพ่ดินแดนพื้นฐาน (Basic land) และ ไพ่ดินแดนพิเศษ (Non Basic Land) ไพ่ดินแดนพื้นฐานสามารถใส่ลงในสำรับกี่ใบก็ได้ ต่างจากไพ่ชนิดอื่น ๆ ที่สามารถมีไพ่ชื่อซ้ำกันได้เพียงสี่ใบในสำรับ ไพ่ดินแดนพิเศษสามารถมีซ้ำกันได้เพียง 4 ใบในหนึ่งสำรับเหมือนไพ่ชนิดอื่น ๆ
- ไพ่สัตว์อสูร (Creature Card) เป็นไพ่ที่อัญเชิญสัตว์อสูรลงมาในสนาม ผู้เล่นจะร่ายลงมาเพื่อใช้โจมตีและป้องกันการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม โดยไพ่สัตว์อสูตรแต่ละตัวจะมี “ค่าร่าย(Cost)” “พลังโจมตี(Power)” “พลังป้องกัน(Toughness)” และ”ความสามารถ(Ability)”แตกต่างกันไป ไพ่ชนิดนี้ เมื่อร่ายลงมาแล้วจะไม่หายไป นอกจากถูกทำลายโดยสัตว์อสูรของฝ่ายตรงข้าม หรือโดยความสามารถของไพ่
- ไพ่อาคม (Enchantment Card) เป็นการ์ดเวทย์มนต์ที่ปกติจะร่ายลงมาในสนามได้ในตาเล่นตนเองเท่านั้น ใช้เพื่อสนับสนุนการเล่นของเรา หรือ ขัดขวางการเล่นของคู่ต่อสู้ เมื่อยู่ในสนามแล้วจะแสดงผลอยู่ตลอดเวลา ไม่หายไป นอกจากถูกทำลายโดยความสามารถของไพ่ นอกจากนี้ยังมี ไพ่อาคม-ออร่า (Enchantment-Aura) ซึ่งจะต้องนำไปสถิตย์ไว้กับ ไพ่ที่มีลักษณะถาวร ชนิดอื่น ๆ จึงจะสามารถใช้งานได้
- ไพ่สิ่งประดิษฐ์ (Artifact Card) เป็นไพ่ที่ปกติจะร่ายลงมาในสนามได้ในเทิร์นตนเองเท่านั้น ใช้เพื่อสนับสนุนการเล่นของเรา หรือ ขัดขวางการเล่นของคู่ต่อสู้ เมื่ออยู่ในสนามแล้วจะแสดงผลอยู่ตลอดเวลา ไม่หายไป นอกจากถูกทำลายโดยความสามารถของไพ่อื่น ไพ่ชนิดนี้เป็นไพ่ประเภทไม่มีสี ไพ่ชนิดนี้จะเป็นอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือยานพาหนะ
อกจากนี้ยังมีไพ่สิ่งประดิษฐ์ที่เป็น อสูรประดิษฐ์ (Artifact Creature) คือไพ่ที่มีคุณสมบัติเป็นทั้งสิ่งประดิษฐ์และสัตว์อสูร - ไพ่นักท่องพิภพ (Planeswalker card) เป็น ไพ่ที่มีลักษณะถาวร (permanant) ชนิดใหม่ล่าสุด เปรียบได้กับการเรียกเพื่อนมาคอยช่วยสู้ โดยจะแสดงความสามารถพิเศษเมื่อผู้เล่นทำตามเงื่อนไขที่กำหนด
- ไพ่ซอเซอรี่ (Sorcery Card) เป็นการ์ดเวทมนตร์ที่ใช้ได้เฉพาะในตาเล่นของตนเอง ใช้เพื่อสนับสนุนการเล่นของเรา หรือ ขัดขวางการเล่นของคู่ต่อสู้ เมื่อมีผลแล้วจะตกลงในสุสาน
- ไพ่อินสแตนท์ (Instant Card) เป็นการ์ดเวทมนตร์ที่ใช้ได้ทั้งในตาเล่นของตนเอง และตาเล่นของฝ่ายตรงข้าม ใช้เพื่อสนับสนุนการเล่นของเรา หรือ ขัดขวางการเล่นของคู่ต่อสู้ เมื่อมีผลแล้วจะตกลงในสุสาน
ผู้เล่นแต่ละคนต้องมีไพ่เมจิกเดอะแกเธอริง 1 สำรับ ที่มีจำนวนไพ่ในสำรับ 60 ใบขึ้นไป
วิธีเล่น - การเล่นแบบสองคน เป็นการเล่นแบบพื้นฐาน ในการเล่นกันเอง และใช้ในงานแข่งขันที่เป็นทางการทั่วไป
- การเล่นแบบหลายผู้เล่น เป็นการเล่นที่เน้นความสนุกสนาน มักไม่พบในการแข่งขันที่เป็นทางการ รูปแบบที่นิยมมีทั้งแบบที่เป็น 3 คน (1:1:1) 4 คน (2:2) หรือ (1:1:1:1) และ 6 คน (3:3)
การแพ้ชนะ
ในเกมส์นี้ผู้เล่นจะชนะได้ 3 วิธี - ชนะเพราะพลังชีวิตฝ่ายตรงข้ามหมด ผู้เล่นตั้งแต่สองคนขึ้นไป เริ่มเกมด้วย พลังชีวิต 20 หน่วย ผู้เล่นจะแพ้เมื่อค่าพลังนี้หมดลง วิธีลดค่านี้ที่พบบ่อยที่สุดคือการโจมตีด้วยสัตว์อสูรที่ถูกเรียกออกมา หรือด้วยเวทมนตร์ต่าง ๆ วิธีนี้จัดเป็นวิธีแพ้ ชนะพื้นฐานของเกมส์
- ชนะเพราะฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถจั่วไพ่ได้ เมื่อผู้เล่นคนใดต้องจั่วไพ่แต่ไม่สามารถจั่วไพ่ได้เพราะไม่มีไพ่เหลือในสำรับ ผู้เล่นคนนั้นจะเป็นฝ่ายแพ้ โดยอาจเกิดจากการที่เล่นกันต่อเนื่องจนไพ่หมดสำรับ หรือการใช้ความสามารถพิเศษที่มีผลให้ลดจำนวนไพ่ในสำรับลง
- ชนะเพราะคำสั่งของไพ่ เป็นการแพ้ หรือชนะ ด้วยความสามารถของไพ่บางใบ โดยปกติจะมีเงื่อนไขที่ต้องทำให้สำเร็จจึงจะสามารถชนะได้
การแบ่งประเภทเด็ค แบ่งตามจำนวนสี เป็นการพิจารณาแบ่งจากจำนวนสีของไพ่ในสำรับ (Deck)นั้น โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ - สำรับสีเดียว(Monocolor Deck) หมายถึงสำรับที่มีไพ่เวทมนตร์สีใดสีหนึ่งเพียงสีเดียว ซึ่งอาจจะมีไพ่สิ่งประดิษฐ์ (Artifact) ซึ่งเป็นไพ่ที่ไม่มีสี รวมอยู่ในสำรับด้วยก็ได้
- สำรับหลายสี(Multicolor Deck) หมายถึงสำรับที่มีไพ่เวทมนตร์ตั้งแต่สองสีขึ้นไป
แบ่งตามลักษณะการเล่น
เป็นการแบ่งสำรับ (Deck) ตามกลยุทธ์ที่ผู้เล่นใช้ในการเล่น โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ จู่โจม (Aggro Deck or Beatdown Deck) ควบคุม (Control Deck) คอมโบ (Combo Deck) และ มิดแรงค์ (Midrange)