โดกาปอง เป็นเกมภาษาแบบเล่นกระดาน ซึ่งใช้ผู้เล่น 3 ถึง 4 คนของการเล่นเกมนี้ และเป็นเกมที่เรียกความสนุกสนานและเสียงหัวเราะให้ผู้เล่นในโลกแห่งแฟนตาซี ที่ชิงความเป็นหนึ่งในการครอบครองสมบัติ ด้วยการออกผจญภัยปราบศัตรูต่าง ๆ ในเกม พร้อมทั้งเล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่ร่วมผจญภัยอีกด้วย โดกาปอง ถูกผลิดเป็นครั้งแรกโดยบริษัท แอสมิค-เอส และบริษัท สตริง (Sting) ประเทศญี่ปุ่น ลักษณะส่วนใหญ่ของเกมนี้มักจะเน้นไปที่วัยเด็กเป็นหลัก เพราะลักษณะรูปภาพจะเน้นออกไปทางสีสันที่น่ารัก ๆกีฬาอีสปอร์ตในซีเกมส์ 2019 จัดขึ้นที่ Filoil Flying V Centre ในซันฮวน เมโทรมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่วันที่ 5 ถึง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เป็นครั้งแรกที่การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตจะมีการมอบเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาที่รับรองโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หลังจากที่จัดมาแล้วในลักษณะกีฬาสาธิตในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โปเกมอนภาคไดมอนด์และภาคเพิร์ล เป็นเกมสวมบทบาทพัฒนาโดยเกมฟรีก จำหน่ายโดยบริษัท โปเกมอน จำกัดและนินเท็นโด สำหรับเครื่องเล่นนินเท็นโด ดีเอส เมื่อรวมกับเกมภาคทำใหม่ โปเกมอนแพลทินัม เกมโปเกมอนสามภาคนี้เป็นเกมที่ห้าและเป็นรุ่นที่สี่ของเกมชุดโปเกมอน เกมออกจำหน่ายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2006 ต่อมาจำหน่ายในอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และยุโรปตลอดปี ค.ศ. 2007 นิตยสารแฟมิซือ (ญี่ปุ่น: ファミ通 โรมาจิ: Famitsū) หรือในชื่อเดิม แฟมิคอม ซือชิน เป็นนิตยสารวิดีโอเกมที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น ผลิตโดย สำนักพิมพ์เอ็นเทอร์เบรน และสำนักพิมพ์โทะคุมะ วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2529 สิ่งพิมพ์ในชื่อแฟมิซือ นอกจากแฟมิซือรายสัปดาห์ที่เป็นหัวหลักแล้ว ยังมีนิตยสารแยกตามประเภทเครื่องเกมต่างๆ ได้แก่ ตระกูลเพลย์สเตชัน ตระกูลนินเทนโด (วีและนินเทนโด ดีเอส) ตระกูลเอ็กซ์บอกซ์ และแฟมิซือ เวฟ นิตยสารรายเดือนที่แนบดีวีดีตัวอย่างเกมไว้ด้วย
เช่นเดียวกับเกมภาคเก่า ภาคไดมอนด์และเพิร์ลเนื้อเรื่องเกิดขึ้นที่ภูมิภาคชินโอ ยึดตามเกาะฮกไกโดของประเทศญี่ปุ่น เป็นการเดินทางของโปเกมอนเทรนเนอร์อายุน้อยที่ฝึกฝนและต่อสู้กับโปเกมอน และต้องขัดขวางองค์กรอาชญากรรมด้วย เกมเพิ่มคุณสมบัติใหม่มากมาย เช่น การเล่นบนอินเทอร์เน็ตผ่านการเชื่อมต่อวายฟายของนินเท็นโด และระบบการต่อสู้ที่เปลี่ยนไป และการประกวดโปเกมอน รวมถึงโปเกมอนสายพันธุใหม่ 107 ตัว เกมทั้งสองภาคเป็นอิสระต่อกัน แต่มีเนื้อเรื่องเหมือนกัน และสามารถเล่นแยกกันได้ โดยจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนโปเกมอนข้ามภาคกันเพื่อเติมเต็มโปเกเดกซ์ มีการประกาศเรื่องการพัฒนาเกมภาคไดมอนด์และเพิร์ลในงานประชุมสื่อนินเท็นโดในไตรมาสที่สี่ของ ค.ศ. 2004 เกมถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติเข้ากับเครื่องดีเอส มีการคาดการณ์ว่าจะออกจำหน่ายในญี่ปุ่นใน ค.ศ. 2005 แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็น ค.ศ. 2006 ในการส่งเสริมเกม นินเท็นโดขายเครื่องเล่นนินเท็นโด ดีเอส ไลต์ รุ่นจำกัดในญี่ปุ่น และจัดงานสังสรรค์เฉลิมฉลองการวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ
เกมได้รับการตอบรับทั่วไปเป็นที่ชื่นชอบ นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ยกย่องการเพิ่มคุณสมบัติวายฟาย และรู้สึกว่าแม้ว่าการเล่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ก็ดึงดูดใจ นักวิจารณ์แบ่งกันวิจารณ์เรื่องกราฟิก และตำหนิเรื่องของเสียงว่าดั้งเดิมเกินไป เกมประสบความสำเร็จมากกว่าภาคที่ทำลงเกมบอยอัดวานซ์ ทำยอดขายได้ 18 ล้านหน่วยทั่วโลก ภาคไดมอนด์และเพิร์ลขายได้มากกว่าภาครูบีและแซฟไฟร์อย่างน้อย 2 ล้านหน่วย และมากกว่าภาคไฟร์เรดและลีฟกรีนอย่างน้อย 6 ล้านหน่วย และขายได้มากกว่าภาคแบล็กและไวต์ ภาคต่อมา มากกว่า 2 ล้านหน่วยก่อนเป็นบริษัท เกมฟรีกเคยเป็นนิตยสารวิดีโอเกมตีพิมพ์เอง สร้างโดยซาโตชิ ทาจิริและเคน ซุงิโมริ ในปี พ.ศ. 2523 ทาจิริเขียนและแก้ไขข้อความและซุงิโมริเป็นผู้วาดภาพ ทาจิริยังใช้ “เกมฟรีก” เป็นนามปากกาเมื่อครั้งที่เขาเป็นนักเขียนอิสระให้กับสิ่งพิมพ์ต่ หนึ่งในเกมแรกของบริษัทเกมฟรีก คือเกม ควินตี เกมแนวแอ็กชันแก้ปริศนาบนเครื่องแฟมิคอม ออกจำหน่ายในอเมริกาเหนือในชื่อ เมนเดลพาเลซ เกมชุดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ โปเกมอน (ญี่ปุ่น: ポケモン โรมาจิ: Pokemon) คำย่อโรมาจิของตราสินค้าสัญชาติญี่ปุ่นว่า พ็อกเก็ตมอนสเตอส์ (ญี่ปุ่น: ポケットモンスター โรมาจิ: Poketto Monsutā ทับศัพท์: Pocket Monsters จำหน่ายโดยนินเท็นโดในประเทศญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ และยุโรป
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 เกมฟรีกซื้อกิจการบริษัทโคอาเกมส์ (Koa Games) บริษัทพัฒนาเกมมือถือบริษัทเกมฟรีก (株式会社ゲームフリーク โรมาจิ: Kabushiki gaisha Gēmu Furīku; อังกฤษ: Game Freak Inc.) เป็นบริษัทผู้พัฒนาวิดีโอเกมสัญชาติญี่ปุ่นก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2532 และเป็นบริษัทที่สร้างวิดีโอเกมชุดที่โด่งดังไปทั่วโลกโปเกมอนนิตยสารแฟมิซือ (ญี่ปุ่น: ファミ通 โรมาจิ: Famitsū) หรือในชื่อเดิม แฟมิคอม ซือชิน เป็นนิตยสารวิดีโอเกมที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น ผลิตโดย สำนักพิมพ์เอ็นเทอร์เบรน และสำนักพิมพ์โทะคุมะ วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2529 สิ่งพิมพ์ในชื่อแฟมิซือ นอกจากแฟมิซือรายสัปดาห์ที่เป็นหัวหลักแล้ว ยังมีนิตยสารแยกตามประเภทเครื่องเกมต่างๆ ได้แก่ ตระกูลเพลย์สเตชัน ตระกูลนินเทนโด (วีและนินเทนโด ดีเอส) ตระกูลเอ็กซ์บอกซ์ และแฟมิซือ เวฟ นิตยสารรายเดือนที่แนบดีวีดีตัวอย่างเกมไว้ด้วย
เดิมประมวลกฎหมายแพ่งญี่ปุ่นได้วางระเบียบการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเอาไว้ บริษัทร่วมทุนแห่งแรก คือ ธนาคารประจำชาติแห่งแรกของญี่ปุ่น (First National Bank of Japan) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1873 ภายหลังเมื่อญี่ปุ่นถูกสหรัฐอเมริกายึดครองหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ชาติผู้เข้ายึดครองได้สังคายนาประมวลกฎหมายแพ่งโดยอาศัยรัฐบัญญัติบริษัทธุรกิจอิลลินอยส์ ค.ศ. 1933 (Illinois Business Corporation Act of 1933) เป็นแม่แบบ บริษัทร่วมทุนของญี่ปุ่นจึงมีร่องรอยบริษัทแบบอเมริกันหลายประกแต่ก็แตกต่างกันบ้าง เช่น บริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นไม่สามารซื้อหุ้นของตนกลับคืนมาได้ ไม่สามารถขายหุ้นราคาน้อยกว่าห้าหมื่นเยนต่อหนึ่งหุ้นได้ และไม่สามารถดำเนินกิจการโดยอาศัยทุนส่วนเกิน (paid-in capital) ซึ่งต่ำกว่าสิบล้านเย็นได้ (ข้อกำหนดเหล่านี้ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกแล้วก็มี)ครั้นวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2005 รัฐสภาญี่ปุ่นตราพระราชบัญญัติบริษัท (会社法; Companies Act) ฉบับใหม่ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ปีถัดมาพระราชบัญญัติฉบับนี้เปลี่ยนแปลงระเบียบการจัดตั้งและดำเนินบริษัทร่วมทุนอย่างใหญ่หลวง โดยปรับปปรุงให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับบริษัทร่วมทุนในสหรัฐอเมริกามากขึ้น
มีเกมที่แข่งขันหกเกม โดยเกมทั้งหมดได้รับการรับรองจากสหพันธ์กีฬาอีสปอร์ตเอเชีย