อะไนต์แมร์ออนเอล์มสตรีต ( A Nightmare on Elm Street) เป็นวิดีโอเกมที่วางจำหน่ายในระบบแฟมิคอมในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1989 และ 1990 โดยอิงแบบไม่เคร่งครัดจากแฟรนไชส์นิ้วเขมือบ ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยแรร์ และเผยแพร่โดยแอลเจเอ็น ทั้งนี้ ไม่ควรสับสนกับเกมที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยชื่อเดียวกันสำหรับคอมโมดอร์ 64 และไอบีเอ็ม พีซี ที่วางจำหน่ายในปี ค.ศ. 1989ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง ส่วนตัวละครวัยรุ่นที่เพิ่มขึ้น สามารถควบคุมได้โดยผู้เล่นอีกสามคนด้วยการใช้เอ็นอีเอส โฟร์สกอร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตระเวนบริเวณใกล้เคียงของเอล์มสตรีต เพื่อรวบรวมกระดูกของเฟรดดี ครูเกอร์ ซึ่งเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ และกำจัดทิ้งในเตาเผาของโรงเรียนมัธยมท้องถิ่นเกมดังกล่าวเกิดขึ้นในย่านเอล์มสตรีต และเล่นจากมุมมองแบบฉายด้านข้าง สภาพแวดล้อมของเกมเป็นที่อาศัยของตัวละครที่เป็นศัตรู (เช่น ซอมบี, แมว, สุนัข, โครงกระดูก, ค้างคาว และมินะทอ ที่จะโจมตีตัวละครของผู้เล่น การถูกโจมตีจำนวนหนึ่งครั้งจะทำให้ผู้เล่นเสียชีวิตในเกม เนื่องจากเกมจะเกิดขึ้นในเวลาประมาณเที่ยงคืน พื้นที่บางส่วนจึงถูกปิดจากผู้เล่นในตอนแรก และต้องมีการรวบรวมกุญแจเพื่อเข้าไปในภายหลัง ภายในอาคารแต่ละหลัง ผู้เล่นจะต้องรวบรวมกระดูกที่กระจายอยู่ทั่วเลเวลก่อนจึงจะสามารถออกไปได้ เมื่อรวบรวมกระดูกครบแล้ว การต่อสู้ของบอสกับเฟรดดีก็จะเริ่มขึ้น การเอาชนะเฟรดดีจะทำให้ผู้เล่นออกจากพื้นที่และได้รับกุญแจที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงพื้นที่ใหม่ได้ เกมนี้มีมาตรวัดเอกลักษณ์เฉพาะในชื่อ “สลีปมิเตอร์” (Sleep Meter) ซึ่งเป็นมาตรวัดระบุว่าตัวละครของผู้เล่นใกล้จะหลับแค่ไหน หากตัวละครของผู้เล่นคนใดคนหนึ่งหลับไป ตัวละครของผู้เล่นทั้งหมดจะถูกส่งไปยังสภาพแวดล้อมเวอร์ชันอื่นที่เรียกว่า “ดรีมเวิลด์” (Dream World) ซึ่งผู้เล่นจะเสี่ยงต่อการโจมตีจากเฟรดดีมากกว่า สลีปมิเตอร์จะลดลงโดยอัตโนมัติ แต่จะช้าลงเมื่อตัวละครของผู้เล่นยังคงเคลื่อนไหวอยู่ สลีปมิเตอร์สามารถเพิ่มขึ้นได้โดยการรวบรวมถ้วยกาแฟที่กระจัดกระจายไปทั่วเลเวล เมื่ออยู่ในดรีมเวิลด์ ตัวละครของผู้เล่นสามารถกลับสู่เวอร์ชันเริ่มต้นของเลเวลได้โดยการรวบรวมบูมบอกซ์ที่วางไว้ที่ใดที่หนึ่งภายในเลเวล การรวบรวมไอคอนบางอย่างจะทำให้ตัวละครของผู้เล่นมีพลังพิเศษในขณะที่พวกเขาอยู่ในโลกแห่งความฝัน นั่นคือความสามารถในการขว้างดาวกระจาย, หอกซัด หรือโพรเจกไทล์เวทมนตร์
ฤดูกาล 2007-200 8ในฤดูกาล 2007-2008 เวสต์แฮมมีสถานการณ์ที่เริ่มปลอดภัยมากขึ้นเพราะสามารถไต่อันดับอยู่ครึ่งบนในตารางคะแนนของลีกได้ แม้นักเตะที่เซ็นสัญญาเข้ามาใหม่อย่าง เคร็ก เบลลามี และ คีรอน ดายเออร์ ได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง และเกมส์สุดท้ายของฤดูกาลนี้ที่ บุลินกราวนด์ คือในนัดที่เวสต์แฮมเสมอไป 2-2 กับ แอสตันวิลลา พร้อมกับจนอับดับที่ 10 ซึ่งสามารถแซงหน้า ทอตนัมฮอตสเปอร์ สโมสรร่วมเมืองไปหนึ่งอันดับโดยมีแต้มมากกว่าสเปอร์อยู่สามแต้ม หลังจากมีเหตุการณ์ว่านักเตะของเวสต์แฮมยูไนเต็ดมีเรื่องทะเลาะกับคณะกรรมการของฝ่ายการตลาด แอนทอน เฟอร์ดินานด์ และ จอร์จ แม็กคาร์ทเนย์ ได้ย้ายไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ และ ผู้จัดการทีม อลัน เคอร์บิชลีย์ ได้ลาออกเมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2008 ทายาทของเขาที่เคยเป็นอดีตกองหน้าของเชลซี จานฟรังโก โซลา ได้มารับงานคุมทีมเวสต์แฮมยูไนเต็ดซึ่งมาคุมทีมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2008 และในการทำเช่นนั้นก็กลายเป็นผู้จัดการทีมที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษครั้งแรกของสโมสรและเขาสามารถนนำเวสต์แฮมยูไนเต็ดจบอันดับที่ 9 ใน พรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล 2009-2010 ในฤดูกาล 2009–10 เวสต์แฮมเริ่มต้นในการเปิดฤดูกาลได้อย่างสวยด้วยการชนะทืมน้องใหม่ที่พึ่งเลื่อนชั้นมาอย่าง วูลฟ์แฮมป์ตันวันเดอเรอส์ ไป 2-0 จากประตูของ มาร์ก โนเบิล ต่อมาเขาก็ได้รับตำแหน่งเป็นกัปตันทีมต่อจาก แมตทิว อัปสัน และในการแข่งขันลีกคัพที่พบกับอดีตคู่ปรับเก่าอย่าง มิลวอล ได้เกิดเหตุจลาจลรุนแรงเกี่ยวกับพื้นดินนอกเช่นเดียวกับการรุกรานสนามและปัญหาภายในฝูงชนอัพตันปาร์ค ในเดือน สิงหาคม ค.ศ. 2009 ความกังวลทางการเงินของในบริษัทของไอซ์แลนด์เจ้าของ บริษัท คนปัจจุบันไม่สามารถที่จะให้ทุนใด ๆ จนกว่าทางสโมสรจะได้เจ้าของใหม่สปอนเซอร์ใหม่และพอผ่านได้ไม่ถึงเดือนก็ได้มีสปอนเซอร์อย่าง สโบเบ็ต ที่ได้เข้ามาสนับสนุนและได้เงินที่ได้เสริมงบนักเตะแล้วทางสโมสรได้ซื้อนักเตะตำแหน่งกองหน้าอย่าง อเล็สซานโดร เดียมานติ มาจาก ลิวอร์โน เวสต์แฮมมีฤดูกาลที่ตกอับของพวกเขาเช่นกันด้วยการดิ้นรนหนีจากโซนตกชั้น แต่ในที่สุดพวกเขาก็รอดตกชั้นทั้งที่ที่เหลือการแข่งขันอีกสองเกม โดยการเอาชนะวีแกนแอธเลติก 3-2 สโมสรได้คะแนนทั้งหมด 35 คะแนนจากทั้งหมด 38 เกม
ฤดูกาล 2010-2011 วันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 สองวันหลังจากจบฤดูกาล 2009–10 เวสต์แฮมประกาศปลดโซลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีม ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2010 อัฟราม แกรนท์ ผู้จัดการทีมชาว อิสราเอล ได้ลงนามเซ็นสัญญาในการเป็นผู้จัดการทีมของเวสต์แฮมยูไนเต็ดด้วยสัญญา 4 ปี ถึงแม้จะได้แกรนท์มาคุมทีมแต่ก็ทำผลงานไม่ค่อยเข้าทีเข้าทางอย่างมั่นคงสักที ซึ่งเวสต์แฮมก็คงอยู่ใกล้โซนตกชั้นตลอด, ในการแข่งขัน ลีกคัพ เวสต์แฮมได้สร้างความประทับใจด้วยการโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมถล่ม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไป 4-0 ในรอบแปดทีมสุดท้าย แต่รูปแบบเวสต์แฮมในพรีเมียร์ลีกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรูปแบบของพวกเขาในสองถ้วยในประเทศ ในลีกคัพรอบก่อนรองชนะเลิศเวสต์แฮมแพ้ให้กับเบอร์มิงแฮมซิตีไป 1-3 และส่วนในถ้วยเอฟเอคัพ เวสต์แฮมแพ้ให้กับสโต๊คซิตีไป 2-1 ในรอบแปดทีมสุดท้าย วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เวสต์แฮมแพ้ให้กับ วีแกนแอธเลติก ในนัดรองสุดท้ายที่สนาม ดีดับเบิลยูสเตเดียม ซึ่งในครึ่งแรกเวสต์แฮมนำไปก่อน 2-0 จากการยิงคนเดียวสองลูกของ เดมบา บา แต่ในครึ่งหลังวีแกนกลับมาเข้าเกมส์อย่างมั่นคงและยิง 3 ประตู ทำให้วีแกนชนะไป 3-2 ด้วยการยิงประตูชัยของ ชาร์ลส์ เอ็น’ซ็อกเบีย ทำให้ต้องตกชั้นไปเล่นในฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป และนั่นเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เวสต์แฮมปลด อัฟราม แกรนท์ ออกจากการเป็นผู้จัดการทีม
สโมสรเวสต์แฮมจบในอันดับที่สามของ ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2011–12 ด้วยการมีทั้งหมด 86 แต้ม และได้สิทธิไปเล่นในรอบเพลย์ออฟในการหาทีมอีกหนึ่งทีมที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13 ซึ่งนัดในแรกพวกเขาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี ทั้งสองนัดรวมสกอร์ทั้งหมด 5-0 และในนัดชิงได้เจอกับ แบล็กพูล โดยได้เล่นที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 คาร์ลตัน โคล ยิงให้เวสต์แฮมนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่แบล็กพูลจะมาตีเสมอได้ ในช่วงปลายครึ่งแรก และในช่วงครึ่งหลังเกมส์ทำท่าว่าจะจบด้วยการเสมอ แต่ในนาทีที่ 87 ริคาร์โด วาซ เต มายิงประตูชัยให้เวสต์แฮมชนะไป 2-1 คว้าตั๋วเลื่อนชั้นใบสุดท้ายได้สำเร็จ